เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ภายในโครงการ “Botanica Foresta” บ้านลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต “โบทานิก้า ลักชัวรี่ วิลล่า” (Botanica Luxury Villas) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของบ้านพักตากอากาศระดับลักชัวรี่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จัดงาน “5,500 MB Sales 2022 Celebration” ฉลองยอดขายปี 2565 ทะลุ 5,500 ล้านบาท ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

พร้อมเปิดตัวอีก 11 โครงการ ในปี 2566 ตอกย้ำความสำเร็จของ “โบทานิก้า ลักชัวรี่วิลล่า” และปรับยอดการขายจากพันล้านเป็นหมื่นล้าน โดยมีนายอรรถสิทธิ์ อินทรชู ผู้บริหารโบทานิก้า ลักชัวรี่ วิลล่า และทีมบริหารฯ ร่วมเปิดแชมเปญเฉลิมฉลอง ท่ามกลางลูกค้า เอเยนต์ และแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทยและต่างชาติ

นายอรรถสิทธิ์ อินทรชู ผู้บริหารโบทานิก้า ลักชัวรี่ วิลล่า กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นการพัฒนาโครงการวิลล่าระดับลักชัวรี่เล็กๆ เพียง 4 – 5 ยูนิต เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ในพื้นที่ลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ซึ่งเราสามารถทำยอดขายทะลุ 5,500 ล้านบาท ในปี 2565 จากโครงการ Botanical Forest, Betanica Modern Loft, Lakeside และ Botanica Lakeside โดยเฉพาะ Botanica Forest ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่สุด มีจำนวนกว่า 80 ยูนิต เป็นพูลวิลล่า 3 – 4 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 30 – 50 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,800 ล้านบาท

ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยทำการพัฒนามาตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ กระทั่งโควิด-19 คลี่คลาย โครงการจึงเป็นรูปเป็นร่างและเริ่มขายอย่างจริงจัง สามารถขายหมดภายในเวลา 1 ปี เกินความคาดหมาย และถือเป็นประวัติศาสตร์โครงการบ้านลักชัวรี่ระดับราคา 25 – 60 ล้านบาทที่ขายดี และปิดการขายได้เร็วที่สุดของภูเก็ต โดยเฉพาะจุดเด่นนอกเหนือจากคุณภาพแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการมีพื้นที่สีเขียว โดยทุกโครงการจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่เยอะที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นซิกเนเจอร์ของโบทานิก้า ลักชัวรี่ วิลล่าด้วย

“สาเหตุสำคัญที่ทำให้สามารถปิดการขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากปัจจุบันความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในพื้นที่ภูเก็ตมีสูง โดยเฉพาะหลังจากเกิดวิกฤตต่างๆ ขึ้น ทั้งโควิด-19 ระบาด และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้เศรษฐีในยุโรปและรัสเซียเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 ที่มีความปลอดภัย หรือใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงหน้าหนาว นอกจากนี้ยังมีสิงคโปร์ จีน และอื่นๆ

ประกอบกับภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความปลอดภัยสูง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน โดยเฉพาะโซนลายัน ซึ่งใกล้สนามบิน และในพื้นที่ยังมีศูนย์การค้า บีชคลับ ร้านอาหาร และชายหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัวสูง จึงทำให้ได้รับความสนใจสูง ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 70% จึงซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนที่ซื้อเพื่อการลงทุนนั้นมีบ้างแต่ไม่มาก”

นายอรรถสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากความสำเร็จของยอดขายในปี 2565 ที่ผ่านมา และแนวโน้มตลาดวิลล่าลักชัวรี่ของภูเก็ตที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ ดังนั้นใน 2023 นี้ จะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 11 โครงการ ในพื้นที่ลายันทั้งหมด โดยเฉพาะโครงการ Botanica Grand Avenue ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางของลายัน ใกล้กับสนามกอล์ฟลากูน่า และต้องการยกระดับการลงทุนพูลล่าวิลล่าระดับลักชัวรี่ในภูเก็ตให้สูงเทียบเท่าระดับโลก

พร้อมกันนี้ได้มีการปรับเป้ายอดการขายจากพันล้านบาทเป็นหมื่นล้านบาท และมั่นใจว่า สามารถทำได้อย่างแน่นอน โดยจับมือกับเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์โครงการที่ดี เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้อยู่อาศัยต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ยังมองพื้นที่อื่นๆ เช่น ราไวย์ ฉลอง กมลา ป่าตอง เป็นต้น เนื่องจากมีลูกค้าสอบถามเข้ามาเช่นกัน คาดว่าน่าจะมีในเร็วๆ นี้


