เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ โชว์รูม สต๊อกโฮล์ม ออโต้ วอลโว่ ภูเก็ต คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ, วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พร้อมด้วย คุณภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ คุณสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพรประธานกรรมการ และ คุณจักรพงศ์ พิมพ์ธนะพูนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สต๊อกโฮล์ม ออโต้ วอลโว่ ภูเก็ต ได้ร่วมกันเปิดตัว Volvo EX30 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่นำมาให้ผู้สนใจในจังหวัดภูเก็ตได้สัมผัสคันจริง
ทั้งนี้ทาง วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัว Volvo EX30 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเป็นรถไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม สไตล์ SUV ที่สร้างคาร์บอนฟุตพรินท์ (carbon footprint) น้อยที่สุดที่เคยมีมาในรถวอลโว่ Volvo EX30 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี และดีไซน์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนเพื่อมอบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลินในการขับขี่แก่ผู้ใช้งาน
คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ, วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเชื่อว่า Volvo EX30 จะเป็นรถที่ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าและตลาดของแบรนด์วอลโว่ในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นด้วยองค์ประกอบของตัวรถเองที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า มีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ดีไซน์สวยงามโดดเด่น ทั้งยังมีขนาดที่กระทัดรัด และด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราเชื่อว่า Volvo EX30 จะเป็นรถที่ตรงต่อความต้องการของผู้คนมากมายที่มีปณิธานเดียวกันกับวอลโว่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และกำลังมองหารถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใข้ชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ตอบโจทย์การใช้รถใช้ถนนที่มีทั้งคนเดินเท้า จักรยานและมอเตอร์ไซต์อยู่ทุกหนแห่งอย่างกรุงเทพมหานคร ความต้องการรถไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว และเราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำ Volvo EX30 เข้ามาเพื่อเปิดตลาดกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กในประเทศร่วมกับผู้จำหน่ายของเรา”
เนื่องจากเป็นรถที่ทำงานโดยระบบไฟฟ้า เราจึงให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่อย่างมาก โดยตัวโครงแชสซี และกล่องเก็บแบตเตอรี่ของ Volvo EX30 ทำจากเหล็กที่มีความทนทานสูงเพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแบตเตอรี่หากเกิดการชน นอกจากนี้ เสา A และ C รวมถึงหลังคาของตัวรถได้รับการออกแบบทางด้านโครงสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสารซึ่งเก็บอยู่ใต้เบาะคนขับถูกออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะและบริเวณหน้าอกหากเกิดการชนจากด้านข้าง
Volvo EX30 ยังมาพร้อมฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตูหรือ dooring alert ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมีระบบเซ็นเซอร์เพื่อช่วยตรวจสอบความพร้อมในการควบคุมรถของผู้ขับที่ไม่เพียงตรวจการจับพวงมาลัย แต่ยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ ดวงตา และกะพริบตาของผู้ขับได้อย่างรวดเร็วถึง 13 ครั้งต่อวินาทีเพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับมีอาการง่วง หรือมีสมาธิในการขับรถหรือไม่ และส่งสัญญาเตือนหากตรวจพบว่าผู้ขับมีแนวโน้มที่ไม่พร้อมในการควบคุมรถ
Volvo EX30 ยังเป็นรถรุ่นแรกที่มีระบบช่วยจอด Park Pilot Assist เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ขับเข้าจอดได้อย่างไร้กังวลไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบขนาน จอดในลานจอดแบบโค้ง ถอยเข้าซอง หรือจอดในลานจอดแบบสลับฟันปลา นอกจากนี้ Volvo EX30 ไม่เพียงนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย แต่ยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความคล่องตัว และตอบโจทย์การใช้งาน มอบความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี และการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ภายในตัวรถมีความทันสมัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยวอลโว่ได้นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่มาชุบชีวิตให้มีประโยชน์อีกครั้ง อาทิ การใช้วัสดุเส้นใยจากยีนส์ และต้นเฟล็กซ์มาใช้ทำเป็นเบาะที่ให้สีสันและสัมผัสที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
ลักษณะการจัดวางที่เน้นการควบคุมจากศูนย์กลางผ่านจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว บนแผงแดชบอร์ดรวบรวมฟังก์ชันการควบคุมรถ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่เพื่อความสะดวกในการใช้งานไว้ในที่เดียว และด้วยการออกแบบที่เน้นการจัดสรรพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด แผงแดชบอร์ดทั้งแผงของ Volvo EX30 จึงถูกติดตั้งชุดลำโพงแบบซาว์ดบาร์จาก Harman Kardon ไว้ภายในเพื่อเป็นการจัดสรรพื้นที่เก็บของในห้องโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งผลที่ได้รับคือคุณภาพเสียงรอบทิศทางที่ไม่ต่างไปจากการฟังเพลงหรือพอดแคสต์สุดโปรดจากชุดเครื่องเสียงในบ้าน
Volvo EX30 มาพร้อมระบบสาระบันเทิง (infotainment) และการเชื่อมต่อ 5G เพื่อการใช้งานแอปที่ลื่นไหลไม่ว่าจะเป็น Google Assistant, Google Maps navigation และ Google Play และครั้งแรกกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย หลังคาแมททาลิคสีดำ Onyx Black ให้ความโดดเด่นตัดกับเฉดสีรถที่มีให้เลือกถึง 5 สีได้แก่ สีเหลือง Moss Yellow สีฟ้า Cloud Blue สีเทา Vapour Grey สีขาว Crystal White และสีดำ Onyx Black ห้องโดยสารภายในมาพร้อมตัวเลือกการตกแต่ง 3 สไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของสแกนดิเนเวียให้สัมผัสและอารมณ์ภายในห้องโดยสารที่แตกต่างกัน ได้แก่ สไตล์ Mist, Indigo และ Breeze
Volvo EX30 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้รถที่แตกต่างกันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 แบบ เริ่มต้นที่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC แบบ extended-range ให้ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร1 ต่อการชาร์จเต็ม รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 153 kW
ปิดท้ายในรุ่นมอเตอร์คู่ Performance ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ให้พลังการขับเคลื่อนสูงสุด 428 แรงม้า (315 kW) จึงให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทำให้ Volvo EX30 มีอัตราการเร่งเร็วที่สุดในรถวอลโว่ที่เคยมีมา นอกจากนี้ยังรองรับกำลังการชาร์จได้ที่ 153kW จึงใช้เวลาการชาร์จจาก 10 – 80% ในเวลาราว 25 นาที
“ทุกความโดดเด่นที่ทำให้รถ SUV ของวอลโว่เป็นที่ชื่นชอบของคนมากมายในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงภายนอกที่โดดเด่น พื้นที่ห้องโดยสารกว้าง พลังการขับขี่ที่เหนือชั้น ระบบความปลอดภัยขั้นสูง เข้าถึงฟังก์ชันการใช้งานได้สะดวก เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้รวมอยู่แล้วใน Volvo EX30” คุณคริส กล่าวทิ้งท้าย
ราคาและการจำหน่ายในประเทศไทย
Volvo EX30 Core – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท
Volvo EX30 Ultra – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1,790,000 บาท
Volvo EX30 Ultra – Twin Motor Performance ราคาเริ่มต้นที่ 1,890,000 บาท
ผู้สนใจสามารถจองเพื่อเป็นเจ้าของ Volvo EX30 ได้แล้ววันนี้ โดยคาดว่าจะพร้อมส่งมอบช่วงไตรมาสแรกในปี 2024 เป็นต้นไป