เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่ตลาดสุขสำราญ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสำราญ จินดาพล อดีตนายกเทศมนตรีตำบลฉลอง และเจ้าของ “ตลาดสุขสำราญ” ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนและพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสด กรณีการเปิด “ตลาดสุขสำราญ” หลังถูกเทศบาลตำบลฉลอง แจ้งข้อกล่าวหา เปิดตลาดไม่ได้รับอนุญาต – ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยมีพ่อค้า แม่ค้าในตลาด และชาวบ้าน มาร่วมให้กำลังใจ
ทั้งนี้นายสำราญ กล่าวว่า ในการเปิดตลาดนั้นก็พยายามดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งการขออนุญาตเปิดตลาด และเมื่อทางเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ เพื่อประกอบการตัดสินใจออกใบอนุญาต และให้ปรับปรุงแก้ไข ก็ได้ดำเนินการตามข้อแนะนำ นอกจากนี้ทางเทศบาลฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดินแปลงที่ตั้งตลาดเป็นที่ดินจัดสรรมีการแบ่งแยกโฉนด ซึ่งจะผิดเงื่อนไขของการจัดสรร
และทางเทศบาลฯ ได้ทำหนังสือไปหารือกับสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เพื่อความชัดเจนและถูกต้อง ซึ่งได้คำตอบว่า เนื่องที่ที่ดินแปลงดังกล่าวได้มีการขายให้กับบุคคลภายนอกไปแล้ว ดังนั้นการขออนุญาตปลูกสร้าง หรือเปลี่ยนแปลงอาคาร จึงเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานควบคุมอาคาร พิจารณาตามกฎหมายควบคุมอาคาร
“ในส่วนของผู้บริหารตลาดได้มีการดำเนินการทุกอย่างตามที่เทศบาลฯ แจ้งมา แต่ปรากฎว่า ก็ยังไม่ได้มีการอนุญาต และยังมีการไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน เปิดตลาดไม่ได้รับอนุญาต – ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งตนก็ได้ไปรับทราบข้อกล่าวแล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ที่ออกมาชี้แจงนั้น เพื่อความถูกต้อง หากยังมีส่วนไหนที่จะต้องแก้ไขก็ให้ทางเทศบาลฯ แจ้งมา ตนก็พร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกประการ”
นายสำราญ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของตนซึ่งเป็นผู้บริหารตลาด หากจะปิดตลาดไปเลยก็ได้ เพราะไม่อยากมีคดีติดตัว แต่หากทำเช่นนั้นผู้ที่เดือดร้อน คือ พ่อค้าแม่ค้าที่มาประกอบอาชีพในตลาดแห่งนี้ ซึ่งมีจำนวนเกือบ 100 ราย หากไม่มีพื้นที่ให้เขาทำกินครอบครัวเขาจะอยู่อย่างไร และจะมีคนเดือดร้อนอีกเท่าไร จึงอยากให้เทศบาลตำบลฉลอง ชี้แจงเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ต่อใบอนุญาตให้ หรือมีประเด็นอะไรที่ผู้บริหารตลาดจะต้องแก้ไขอีกให้แจ้งมา ตนพร้อมที่จะดำเนินการให้ถูกต้อง และพี่น้องประชาชนซึ่งพ่อค้าแม่ค้าจะได้ทำมาหากิน
จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า ส่วนใหญ่ไม่อยากให้ปิดตลาด เพราะต้องเดือดร้อน บ้านก็ต้องเช่า รถก็ต้องผ่อน หากไม่มีที่ขายของ ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทางเทศบาล และจากที่ทราบข่าวมาว่า ทางเทศบาลได้จัดหาที่ขายของให้ใหม่แล้ว แต่อยู่ห่างจากที่เดิมประมาณ 4 กม. และอยู่ภายในซอย นอกจากนี้ที่จอกรถของผู้ที่จะมาจ่ายตลาดก็มีน้อย กลัวว่าผู้ที่มาจ่ายตลาดจอดรถบนพื้นผิวถนน ทำให้กีดขวางการจราจรภายในซอยได้
