เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ที่บริเวณลานจอดรถหาดกะตะ ด้านข้างโรงแรมบียอนด์ กะตะ ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดประธานในพิธีเปิดและมอบประกาศนียบัตร ในโครงการ “รักษ์ทะเล” หาดกะตะ กะรน (Love The Ocean) โดยมีนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมือง ภูเก็ต นายจรูญ อุดมกิจวิบูลย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต นางสาวจันจิรา ดวงใส ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 นายวิศวินทร์ ปิติกุลสถิตย์ นายกสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดกะตะกะรน พนักงานจากสถานประกอบการโรงแรมบริเวณหาดกะตะกะรน ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วม
สำหรับ โครงการ “รักษ์ทะเล” หาดกะตะ กะรน (Love The Ocean) เป็นโครงการที่จัดขึ้นเนื่องจากวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันทะเลโลก หรือวันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day) เพื่อให้ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางทะเล ซึ่งสถานการณ์ปัญหามลพิษทางทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและตำบลกะรนในปัจจุบัน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด ก่อให้เกิดปัญหาการตกค้างของขยะมูลฝอยและน้ำเสียไหลลงทะเลเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำทะเลตามฤดูกาล ซึ่งทำให้ขยะสะสมตกค้างในทะเลเกิดการไหลเวียนตามกระแสน้ำและคลื่นลม ขึ้นมาเกยตื้นตามแนวชายหาดบริเวณพื้นที่กะรนมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศน์ทางทะเลโดยรวม ตลอดจนภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด
นอกจากนี้เทศบาลตำบลกะรน ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 และสมาคมธุรกิจโรงแรมหาดกะตะกะรน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงจัดให้มีกิจกรรมอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการน้ำเสียในสถานประกอบการโรงแรม ห้องพัก และอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการขยะอินทรีย์ในสถานประกอบการจำหน่ายอาหารในพื้นที่ตำบลกะรนขึ้น
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้ร่วมกันจัดเก็บขยะบริเวณชายหาดกะตะ ตลอดระยะทางยาวกว่า 2 กม. นอกจากนี้ผู้ที่ผ่านการอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการน้ำเสียในสถานประกอบการโรงแรมและห้องพัก มีสถานประกอบการผ่านการอบรมทั้งสิ้น 51 แห่ง และการอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการขยะอินทรีย์ในสถานประกอบการจำหน่ายอาหาร มีสถานประกอบการผ่านการอบรมทั้งสิ้น 50 แห่ง โดยทั้ง 2 กิจกรรมในการอบรม ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรไว้เป็นหลักฐานด้วย