เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ร้านไม้หมอนฟอเรสต์ อ.เมืองภูเก็ต สมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต ทีมคนหนุ่ม ประกอบด้วย นายพิสุทธิ์ สุทธิจินดาวงศ์, นายวิสุทธิ์ พรหมทอง, นายเอกพล ธงชัย, ว่าที่ร.ต. สมเกียรติ จิรอมรรัตน์ , นายนิวาส อรุณรัตน์ และนายจิรศักดิ์ หล่อโลหการ ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ของเทศบาลนครภูเก็ต ใน 2 ประเด็น
ได้แก่ กรณีการเสนอขอแปรญัตติ เรื่อง ร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 รายจ่ายเฉพาะกิจการประภาเทศบาลนครภูเก็ต กับการตั้งงบประมาณจำนวน 8 ล้านบาท ในการว่าจ้างศึกษาออกแบบการพัฒนาพื้นที่ของเทศบาลนครภูเก็ต ตั้งแต่ สะพานพระอร่าม ถนนภูเก็ต ถึงแนวเขตถนนมนตรี พื้นที่ 11 ไร่เศษ
สืบเนื่องจากการประชุมสภาเทศบาลนครภูเก็ต เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ในวาระที่ 1 ทีมคนหนุ่ม นครภูเก็ตได้ตรวจพบว่า มีค่าใช้จ่ายโครงการจ้างเอกชนผลิตน้ำประปาเป็นเงิน 42,140,000 บาท เป็นงบประมาณผูกพัน 3 ปี ซึ่งการนำเสนอร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ไม่ถูกต้องและขัดต่อระเบียบกระทรวง มหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 37 และหนังสือหารือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท. 08082 / 6003
กล่าวคือ การที่เทศบาลจะเสนอโครงการดังกล่าวได้นั้น จะต้องเสนอญัตติต่อสภาท้องถิ่น เพื่อพิจารณาให้เห็นชอบเสียก่อน ดังนั้นเมื่อมีการนำเสนอไม่เป็นไปตามระเบียบดังกล่าว และหากมีการผ่านงบประมาณดังกล่าวไป จะส่งผลให้ร่างเทศบัญญัติทั้งหมดของ ปี 2568 ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองท้องถิ่น พ.ศ. 2563 และอาจมีผลทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่ายเงินตามโครงการนี้จะถูกพิจารณาโทษทางวินัย ตลอดจนต้องรับผิดชอบทางละเมิดเพื่อชดใช้เงินที่เบิกจ่ายโดยไม่ถูกต้องต่อไป
การนำร่างงบประมาณรายจ่ายของกองการประปาที่ถูกยกเลิกจำนวน 42,000,000 บาทเศษ มาขอเสนอแปรญัตติโดยนายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้ขอเสนอโครงการเพิ่มเติมในหมวดต่าง ๆ ซึ่งมีวงเงินงบประมาณที่สูงกว่างบประมาณเดิม ได้แก่ หมวดค่าใช้สอย เพื่อจ่ายเป็นค่าถ่ายเอกสาร ฯลฯ เดิมตั้งไว้ 700,000 บาท แปรเพิ่มเติมรายจ่ายเป็น 3,280,000 บาท (สูงกว่างบประมาณเดิมกว่า 400 เปอร์เซ็นต์),
หมวดค่าวัสดุ งานบ้านงานครัว กองประปา เดิมตั้งไว้ 2,171,000 บาท แปรเพิ่มเติมรายจ่ายเป็น 6,531,000 บาท (สูงกว่างบประมาณเดิมกว่า 300 เปอร์เซ็นต์) และหมวดค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า เดิมตั้งไว้ 11,000,000 บาท แปรเพิ่มเติมรายจ่ายเป็น 23,500,000 บาท (สูงกว่างบประมาณเดิมกว่า 200 เปอร์เซ็นต์)
อย่างไรก็ตามสมาชิกสภาฯ ทีมคนหนุ่ม ยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาใดๆ หรือต้องการตีตกงบประมาณที่ฝ่ายบริหารนำเสนอมา เพื่อประโยชน์ของประชาชน เพียงแต่ต้องการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลัง
และครั้งนี้เราสามารถตรวจสอบพบความผิดปกติของการตั้งงบประมาณรายจ่าย ว่า ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ และได้มีการอภิปรายจนทำให้ร่างงบประมาณฯ ในส่วนของกิจการประปาดังกล่าว ต้องถูกยกเลิกไป เพื่อให้ทางฝ่ายบริการนำไปทบทวนและดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะไม่เช่นั้นหากมีการตรวจสอบพบภายหลัง จะส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวน กว่า 1,300 ล้านบาทได้รับผลกระทบไปด้วย
ทั้งนี้ในร่างเทศบัญญัติรายจ่ายประจำปี 2568 ยังได้อ้างถึงโครงการจ้างศึกษาออกแบบการพัฒนาพื้นที่ของเทศบาลนครภูเก็ตตั้งแต่เชิงสะพานพระอร่าม ถนนภูเก็ต ถึงแนวเขตถนนมนตรี เป็นเงินจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้เทศบาลนครภูเก็ต ดำเนินการลดระยะเวลาสัญญาการเช่าพื้นที่ของผู้เช่าในพื้นที่ดังกล่าวเหลือเพียง 6 เดือน ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว
โดยทีมคนหนุ่มนครภูเก็ต, ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในประกาศพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ตามประกาศของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และย่านเมืองเก่า พ.ศ. 2546, เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และเป็นโครงการที่ขัดกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นเดิม รวมทั้งส่งผลต่อธุรกิจรายย่อย (SME) ในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้เนื่องจากสภาเทศบาลนครภูเก็ต และนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตจะหมดวาระในอีกประมาณ 8 เดือนข้างหน้า ดังนั้นการเสนอใช้งบศึกษาดังกล่าว อาจจะไม่เกิดมรรคผลที่แท้จริง และเป็นการใช้งบประมาณที่สูญเปล่า เพราะในการศึกษาต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และไม่มั่นใจว่าสมัยหน้าผู้บริหารยังคงเป็นชุดเดิมหรือไม่ หากไม่ใช่และไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เท่ากับเป็นการใช้งประมาณไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นจึงควรที่จะรอเวลาที่ได้รับการเลือกตั้งในสมัยหน้าก็ไม่น่าจะเสียหาย และจะเป็นการใชงบประมาณที่คุ้มค่าด้วย