เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 โรงแรมในเครือกะตะธานี ร่วมกับมูลนิธิรักท้องถิ่น จัดกิจกรรม “วันสิ่งแวดล้อม เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ครั้งที่ 18” โดยได้รับเกียรติจากนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมในเครือกะตะธานี โดยมีนางสาวนันทิดา อติเศรษฐ์ กรรมการบริหาร และผู้บริหารฯ ให้การต้อนรับ และมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วม
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวเปิดงานและเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการคัดแยกขยะว่า การแยกขยะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่เริ่มจากตัวเราและส่งผลต่อสังคมโดยรวม ทุกคนต้องร่วมกันคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในจังหวัดภูเก็ต
ด้านนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมในเครือกะตะธานี ได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับมูลนิธิรักท้องถิ่น และเครือข่ายในชุมชนมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 20 ปี โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
ภายในงานมีการลงนามความร่วมมือการจัดการไขมันจากร้านอาหารในชุมชน เพื่อป้องกันน้ำเสียไหลลงทะเล, การแต่งตั้งทีม “KNPT – ทีมปกป้องการท่องเที่ยวยั่งยืน, มอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนในพื้นที่, มอบรางวัลการจัดการสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวดีเด่นประจำปี, การบรรยายหัวข้อ “การจัดการขยะเพื่อลดโลกร้อน” และ “ระบบจัดการของเสียและไขมันในชุมชนกะตะน้อย”, การบรรยายเรื่อง “การสร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการวางไข่ของเต่าทะเลในแหล่งท่องเที่ยว” การนำเสนอวีดิทัศน์สรุปผลงานที่ผ่านมา พร้อมเผยแผนการดำเนินงานในปีถัดไป
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และชุมชน ในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการดูแลชายหาดกะตะและกะรนให้สะอาดและสวยงาม คงไว้ซึ่งเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคุณภาพทั่วโลก
ท้ายที่สุดนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน และย้ำว่าการรวมพลังในครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดี และยกระดับภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตให้โดดเด่นบนเวทีการท่องเที่ยวโลกอย่างยั่งยืน
