เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายนิพนธ์ เอกวานิช รองประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ร่วมหารือกับนางลลิตา มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้ประกอบการโรงแรม–ที่พักขนาดเล็ก เพื่อรับฟังปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและหาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่ความยั่งยืน โยเฉพาะการนำโรงแรมที่พักขนาดเล็กเข้าสู่ระบบ
การประชุมครั้งนี้มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โรงแรมและที่พัก หลังสิ้นสุดการผ่อนผันตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบการขออนุญาตได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูเก็ต
นางลลิตา มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ย้ำว่า เทศบาลพร้อมเร่งแก้ปัญหาการจดทะเบียนโรงแรมและที่พัก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าสู่ระบบได้ถูกต้องตามกฎหมาย ควบคู่กับการพัฒนาพื้นที่ป่าตองสู่ “Smart City ด้านการท่องเที่ยว” โดยเน้นสร้างความมั่นคงทางรายได้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย และเสริมความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในระยะยาว
ด้านนายนิพนธ์ เอกวานิช ระบุว่า ปัจจุบันทั้งจังหวัดภูเก็ต ยังมีผู้ประกอบการกว่า 5,000 รายที่ไม่ได้มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่เพียงแค่ปรับปรุงกฎหมาย แต่ยังต้องปรับเปลี่ยนกรอบความคิด (mindset) ของผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ภูเก็ตกลายเป็น “โมเดลของปัญหา” พร้อมย้ำว่าการพัฒนาภูเก็ตต้องมุ่งสู่ความมั่นคง ยั่งยืน และสามารถเป็นหัวหอกด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ แม้ว่าขณะนี้ในส่วนของกฎกระทรวงฉบับที่ 4 จะสิ้นสุดลงแล้ว
แต่ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องเพื่อขอขยายเวลา และมีการปรับปรุงกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวให้ถาวร เพื่อจะได้ไม่ต้องมาขยายเวลาอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้รีบความร่วมมือจากทางจังหวัดภูเก็ต ในการให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาต ให้เร่งนำหลักฐานต่างๆ ไปยื่นเรื่องไว้ที่อำเภอ ระหว่างการแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
จากนั้นก็ได้ดำเนินการขั้นต่อไป เพราะปัจจุบันถูกว่ามีการปลดล็อคอุปสรรคต่างๆ ไปได้ค่อนข้างมากแล้ว และทราบว่าทางจังหวัดภูเก็ตจะมีการเรียกผู้ประกอบการที่ยังไม่เข้าระบบมาชี้แจงทำความเข้าใจ ก่อนที่จะดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามหลังการหารือเสร็จสิ้น ทางคณะฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงแรมขนาดเล็กทั้งที่ได้รับและยังไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะโดยตรง เพื่อนำข้อมูลไปใช้กำหนดแนวทางเชิงนโยบายที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจฐานรากและการลงทุนด้านการท่องเที่ยวในอนาคต รวมทั้งจะได้สรุปประเด็นต่างๆ นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินทางแก้ปัญหาและนำเข้าสู่ระบบต่อไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศด้วย โดยใช้ภูเก็ตเป็นโมเดล
