ศวอบ.สำรวจแมงกะพรุนพิษด้วยเครื่องมืออวนลอย หาดบางเทา

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่กลุ่มพิพิธภัณฑ์และสถานแสดงพันธุ์สัตว์ทะเล ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) สำรวจแมงกะพรุนพิษด้วยเครื่องมืออวนลอยกุ้ง 3 ชั้น บริเวณหาดบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผลสำรวจพบ แมงกะพรุนกล่องชนิด Chironex sp. จำนวน 1 ตัว

โดยพื้นที่บริเวณหาดบางเทา มีความลึกเฉลี่ย 6.5 เมตร มีค่าคุณภาพน้ำเบื้องต้นดังนี้ ความเค็ม 30 ppt อุณหภูมิน้ำ 30.3 °C ความเป็นกรด-ด่าง 8.20 และปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 6.2 mg/L สภาพอากาศโดยทั่วไปมีเมฆปกคลุม และคลื่นลมแรง พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากได้รับการสัมผัสแมงกะพรุนพิษ

เทศบาลตำบลวิชิต ร่วมโครงการสร้างภูมิคุ้มกันวัยใสด้วย NLP

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 68 ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ หมู่ 6 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต นายธนวัฒน์ เทวเดช ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการสร้างภูมิคุ้มกันวัยใสด้วย NLP สนับสนุนงบประมาณโดย กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลวิชิต และติดตามผลการดำเนินงานโครงการ

พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ สัจเดช ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม นางมยุรี ตรีสุข ผู้อำนวยการกองคลัง นายอาศิส เทพบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลวิชิต นายโอภาส คงยศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ และคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลวิชิต เข้าร่วม

เจ้าหน้ามูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตช่วยเหลือเด็กนักเรียนขาติดฝาท่อ

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ทางศูนย์วิทยุมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รับแจ้งจากข่ายอาสาจราจรสภ.วิชิต ว่าเกิดเหตุเด็กนักเรียนชาย เกิดอุบัติเหตุขาติดในช่องฝาท่อระบายน้ำในขณะจะขึ้นรถกลับบ้าน

หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต พร้อมอุปกรณ์เจาะฝาท่อซิเมนต์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบที่เกิดเหตุมีชาวบ้านกำลังมุงดูที่เกิดเหตุ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าไปตรวจสอบ พบขาของเด็กชายดังกล่าวติดอยู่ระหว่างฝาปิดท่อระบาย

ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทดลองขยับขาของน้อง แต่ก็ไม่สามารถนำออกมาได้ จึงได้ใช้เครื่องเจาะคอนกรีตโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถเอาขาออกมาได้อย่างปลอดภัย จากการตรวจสอบพบมีบาดแผลถลอก และหัวเข่าบวมช้ำ พร้อมทั้งนำร่างน้องส่งโรงพยาบาลดีบุกเพื่อทำการรักษาต่อไป

สายด่วนมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต 1163

ทต.วิชิต ต้อนรับคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน ชมรม TO BE NUMBER ONE

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ทำการชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านบ่อแร่ (คลองมุดง) หมู่ที่ 6 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายชาญวิทย์ สัจเดช ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยพนักงานและเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลวิชิต

ร่วมให้การต้อนรับคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน ชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านบ่อแร่ นำโดยนายบุญยวีร์ ไขว้พันธุ์ และนางธิดา จุลินทร คณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE

นอกจากนี้ยังมี นายแพทย์บรรพต ปานเคลือบ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นางอุษา สุขประเสริฐ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลวิชิต และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

อ่านคำประกาศพระเกียรติคุณ เนื่องในวันอาภากร

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อ.เมือง ภูเก็ต พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 เป็นประธานในพิธีอ่านคำประกาศพระเกียรติคุณและพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะแด่พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2568 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพลทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

นอกจากนี้ ที่พลับพลาที่ประทับฯ สะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 โดยพลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 จัดพิธีสงฆ์และพิธีบวงสรวงพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการโรงแรม ร่วมในพิธีฯ

BEING Thailand 2025 ตอกย้ำภาพลักษณ์ไทย ในฐานะผู้นำด้านเศรษฐกิจสุขภาพยุคใหม่ระดับโลก

ประเทศไทยมุ่งยกระดับแนวคิดด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี หลังจากเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้มากว่า 4 ทศวรรษ ท่ามกลางกระแสใหม่ที่คำว่า “Well-being” กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของยุคนี้

เมื่อเทรนด์สุขภาพทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคและนักเดินทาง ประเทศไทยก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะผู้นำที่รู้เท่าทันและปรับตัวได้อย่างชาญฉลาดในโลกของเศรษฐกิจสุขภาพ ที่งาน Being Thailand 2025 ณ จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทยถูกจับตามองในบทบาทสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบริการ การดูแลสุขภาพ และตลาดผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ “สุขภาวะ” มากยิ่งขึ้น โดยสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในเวทีระดับนานาชาติด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์

ตลอดเวลากว่า 30 ปี ประเทศไทยได้พัฒนา “ระบบนิเวศสุขภาพ” ที่มีความหลากหลาย จากจุดเริ่มต้นที่เน้นการทำสปาและการบำบัดแบบองค์รวม สู่การเติบโตเป็นตลาดสุขภาพที่ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่รีสอร์ตที่เน้นการยืดอายุขัย การแพทย์แบบผสมผสาน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ โดยเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ตได้เปลี่ยนโฉมไปเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาวะที่ครบครัน ทั้งในแง่โครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ แบรนด์โรงแรมระดับโลก และอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ที่รองรับไลฟ์สไตล์สุขภาพอย่างแท้จริง

Viona Zhang รองกรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks กล่าวว่า “เศรษฐกิจสุขภาพของไทยในวันนี้ ไม่ได้แค่ขยายตัว แต่กำลังปรับทิศทางเพื่อเตรียมพร้อมรับอนาคต ซึ่งงาน Being Thailand 2025 ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่นำผู้คนในอุตสาหกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง วิเคราะห์แนวโน้มตลาด และหารือถึงแนวทางการปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้ตอบรับกับความต้องการรูปแบบใหม่ที่กำลังจะมาถึง”

งานนี้ถูกออกแบบในรูปแบบ B2B ที่เน้นการเชื่อมโยง สร้างแรงบันดาลใจ และแบ่งปันองค์ความรู้ ผ่านเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญ การแลกเปลี่ยนแนวคิดเชิงกลยุทธ์ และกิจกรรมด้านสุขภาวะที่ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพระหว่างผู้เล่นจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของ “สุขภาวะ” ที่เน้นประสบการณ์และการลงมือปฏิบัติ

ข้อมูลจากรายงาน Wellness Economy Report 2025 โดย C9 Hotelworks เผยให้เห็นภาพรวมและแรงขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมสุขภาพในไทย โดยพบว่ามูลค่าการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 194,000 ล้านบาท (5.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2022 เป็น 419,000 ล้านบาท (11.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2023 ซึ่งการเติบโตได้รับแรงหนุนหลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดเป็นสัดส่วนจาก 23% เป็น 40% ของตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่ารวมของเศรษฐกิจสุขภาพไทยในปี 2023 อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท (38.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในสิบของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เทรนด์สุขภาพยังคงส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับออกกำลังกาย ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 52% ของตลาดในกลุ่มสุขภาพทางกาย ขณะที่อาหารและเครื่องดื่มที่ติดฉลากเพื่อสุขภาพก็มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 198,000 ล้านบาท (5.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่า “สุขภาพ” ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ประจำวัน มากกว่าแค่การดูแลตัวเองเฉพาะช่วงวันหยุดหรือทริปท่องเที่ยว

นอกจากนี้ แนวโน้มการพัฒนาในธุรกิจโรงแรมและที่พักก็เปลี่ยนแปลงไป โดยจากเดิมที่บริการด้านสุขภาพมักจำกัดอยู่ในรีสอร์ตเฉพาะทาง แต่ปัจจุบัน แนวคิดด้านสุขภาวะได้ถูกผสานเข้ากับโรงแรมในหลายระดับมากขึ้น เห็นได้จากการเปิดตัวของโครงการใหม่อย่าง Clinique La Prairie แห่งแรกในเอเชียที่ตรีวนันดา ภูเก็ต และโครงการ Silver Wellness & Residence โดย BDMS ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังปรับภาพลักษณ์สู่การเป็นศูนย์กลางด้านการยืดอายุขัย การดูแลสุขภาพที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมแบบองค์รวม

งาน Being Thailand 2025 เปิดเวทีให้เกิดการแลกเปลี่ยนเชิงลึกและการสร้างพันธมิตรระดับภาคการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ สุขภาพผู้บริโภค การแพทย์ และการลงทุน พร้อมตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และต้นแบบการบูรณาการแนวคิด “สุขภาวะ” ที่เข้ากับยุทธศาสตร์ระดับชาติและการเติบโตของภาคเอกชน

สามารถดาวน์โหลดรายงาน Wellness Economy Report 2025 ฉบับเต็มได้ที่: www.c9hotelworks.com

ภาพรวมของงานและผู้จัด

Being Thailand 2025 เป็นงาน B2B ที่จัดขึ้นแบบพบปะกันจริง มุ่งเน้นการเชื่อมโยง สร้างแรงบันดาลใจ และแบ่งปันองค์ความรู้แก่ผู้นำในอุตสาหกรรม ผ่านเนื้อหาเชิงกลยุทธ์ควบคู่กับประสบการณ์ที่สะท้อนแนวคิดด้านสุขภาวะ จัดขึ้นโดย C9 Hotelworks, QUO และ Mrs. B Group พร้อมการสนับสนุนจาก Delivering Asia, สมาคมโรงแรมภูเก็ต, SAii Laguna Phuket, Meliá Hotels International, Layan Life by Anantara, Gardens of Eden, Laguna Phuket, เครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพในภูเก็ต และ Lemongrass House

ทต.วิชิตและทต.ฉลอง ร่วมกับ พม.ภูเก็ต จัดกิจกรรม สานสัมพันธ์ภายในครอบครัว

ในระหว่างวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรมไม้ขาว ปาล์มบีช รีสอร์ท ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลวิชิตและเทศบาลตำบลฉลอง ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรม “วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว” โครงการวัคซีนครอบครัว (ให้ทุกวันเป็นวันครอบครัว) และโครงการชวนครอบครัว มาเรียนรู้ ผนึกกำลังเป็นพลังสร้างคนในครอบครัว โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นจำนวน 115 คน

โดยบูรณาการการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การบรรยายให้ความเรียนรู้ประเด็นสถานการณ์ทางสังคม วิกฤตประชากร กิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ ความหลากหลาย และความเท่าเทียมระหว่างเพศ การส่งเสริมการออม สื่อออนไลน์ภัยสำหรับครอบครัว รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการใช้เวลาคุณภาพครอบครัวและการส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว เป็นต้น

วางพวงมาลา ถวายสักการะเนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ พลเรือตรี อุทัย ยังวิลัย รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา ถวายสักการะแด่พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2568 ณ ประภาคารกาญจนาภิเษกแหลมพรหมเทพ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

และมอบหมายให้นาวาเอก สถาพร วาจรัตน์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา ถวายสักการะแด่พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2568 ณ สถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือ 3 ภูเก็ต (ส.ทร.3) อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

เทศบาลตำบลวิชิต จัดมหกรรมกีฬาต้านยาเสพติด “เทศบาลตำบลวิชิตคัพ” ครั้งที่ 24

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่สนามฟุตบอลสวนศรีภูวนาถ หมู่ที่ 1 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายธนวัฒน์ เทวเดช ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมกีฟ้าด้านยาเสพติด “เทศบาลตำบลวิชิตคัพ” ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ตำบลวิชิตเข้าร่วม

พันจ่าเอกยอดชาย ซ้วนลิ่ม รองปลัดเทศบาลตำบลวิชิต ได้กล่าวว่า มหกรรมกีฬาต้านยาเสพติด “เทศบาลตำบลวิชิตคัพ” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชนและประชาชนออกกำลังกาย ส่งเสริมสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม สร้างความสัมพันธ์ เสริมสร้างความสามัคคี ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลสิ่งเสพติด รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งในวันนี้ เป็นพิธีเปิดสนามได้มีการแข่งขันฟุตบอลคู่พิเศษ ระหว่างเทศบาลตำบลวิชิต พบกับ ทีมทัพเรือภาคที่ 3

โดยมหกรรมกีฬาต้านยาเสพติด “เทศบาลตำบลวิชิตคัพ” ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 จะมีการแข่งขันกีฬา 6 ประเภท ประกอบ ด้วยการแข่งขันฟุตบอล, การแข่งขันเซปักตะกร้อ, การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง, การแข่งขันเปตอง,การแข่งขันวู้ดบอลและการแข่งขันชักเย่อ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน รวมถึงชมรมผู้ตัดสินกีฬาจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งทีมงานผู้ตัดสินมาทำหน้าที่ในการแข่งขัน โดยกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม ถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2568

ศวอบ.สำรวจแนวปะการังโดยวิธี Line intercept transect

ระหว่างวันที่ 13 – 15 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้สำรวจแนวปะการังโดยวิธี Line intercept transect บริเวณเกาะตะเภาใหญ่ เกาะนาคาใหญ่ บ้านแหลมขาด และอ่าวตั้งเข็ม จังหวัดภูเก็ต จากการสำรวจที่ระดับความลึกน้ำทะเลประมาณ 3 เมตร

พบว่าแนวปะการังมีสภาพสมบูรณ์ปานกลาง ปะการังที่พบส่วนใหญ่ เช่น ปะการังโขด (Porites lutea) ปะการังวงแหวน (Dipsastraea spp.) ปะการังสมองร่องสั้น (Platygyra spp.) ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora spp.) และปะการังกาแล็กซี่ (Galaxea fascicularis) พบปะการังตายจากการฟอกขาวในปี 2567 ประมาณ 25%

การลงเกาะของตัวอ่อนปะการังที่พบส่วนใหญ่ เช่น ปะการังวงแหวน (Dipsastraea spp.) ปะการังโขด (Porites lutea) และปะการังกาแล็กซี่ (Galaxea fascicularis) อุณหภูมิน้ำทะเลวัดได้ 30 องศาเซลเซียส

สิ่งมีชีวิตที่พบส่วนใหญ่ในแนวปะการัง เช่น ปลาสลิดหิน ปลากระดี่ทะเล ปลาผีเสื้อ ปลานกขุนทอง ปลาอมไข่ เม่นดำหนามยาว ดาวขนนก ปูหิน และหอยมือเสือ ขยะในแนวปะการังที่พบส่วนใหญ่เป็นขยะตกค้างจากกิจกรรมการทำประมง เช่น เชือก สายเส้นเอ็นตกปลา และเศษอวน