“โรตารีอันดามัน” เปิดตัว “ธนา คงคาวาส” นายกสโมสรฯ คนใหม่ พร้อมลงนามคู่มิตรต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารกันเอง 2 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต สโมสรโรตารีอันดามัน จัดงานเฉลิมฉลอง และขอบคุณนายกและคณะกรรมการบริหารสโมสรโรตารีอันดามัน พร้อมเปิดตัวนายธนา คงคาวาส นายกสโมสรโรตารีอันดามัน ภาค 3330 ปีบริหาร 2566-2567 คนใหม่

โดยมีนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ อดีตนายกสโมรโรตารีอันดามัน ภาค 3330 ปี 2565-2566 ตลอดจนสมาชิกโรตารีอันดามัน และโรตารี ภาค 3330 ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

โอกสนี้ยังมีพิธีลงนามต่อสัญญาคู่มิตรระหว่างสโมสรโรตารี่บังซาร์ มาเลเซีย  กับสโมสรโรตารีอันดามัน และสโมสรโรตารี เซอร์คิต มากาติ ประเทศฟิลิปินส์ กับสโมสรโรนารีอันดามัน ซึ่งเป็นการต่อสัญญาทุกปี โดยปีหน้าจะมีการไปลงนามที่ประเทศฟิลิปินส์

อย่างไรก็ตามภายในงานสมาชิกโรตารีจากสโมสตรต่างๆ ยังได้ร่วมกันบริจาคทุนในการจัดซื้อรถพยาบาลให้กับโรงพยาบาลฉลองด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการจัดกิจกรรมวิ่งระดมทุนไปแล้วแต่ยังขาดงบประมาณอีกจำนวนหนึ่ง 

“โกลเด้นเบรน จินตคณิต” เปิดสาขาภูเก็ต เสริมทักษะพัฒนาสมองเด็กวัย 4 – 9 ขวบ

วันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุม โรงแรมเพอรานากัน เฮาส์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โรงเรียนเสริมทักษะ โกลเด้นเบรน จินตคณิต สาขาภูเก็ต โดยนายสรินทร์ วัชระพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการ โกลเด้นเบรน จินตคณิต ประเทศไทย จัดกิจกรรมปฐมนิเทศหลักสูตรการเรียนการสอน โรงเรียนเสริมทักษะโกลเด้นเบรน จินตคณิต ให้ผู้ปกครองนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต ได้รับทราบรายละเอียดของหลักสูตรฯ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ที่เข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าว

นายสรินทร์ วัชระพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการ โกลเด้นเบรน จินตคณิต ประเทศไทย กล่าวว่า  ปัจจุบันโรงเรียนเสริมทักษะโกลเด้นเบรน จินตคณิต มีสาขาทั่วประเทศ 18 สาขา และภูเก็ตจะเป็นสาขาที่ 18 โดยจะเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศหลักสูตรขึ้นนั้น เพื่อแนะนำโรงเรียน และหลักสูตรการเรียนการสอนให้ผู้ปกครองในจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบ และเพื่อสร้างความมั่นใจว่า โกลเด้นเบรนเป็นหลักสูตรจินตคณิตที่ดีที่สุดสำหรับเด็กอายุ 4 – 9 ปี

ด้วยจุดเด่นของโรงเรียน คือ  ทั้งความสะดวกสบาย โปรแกรมการเรียนการสอนและหลักสูตรที่ดีที่สุด และกลุ่มครูที่เข้มแข็ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาแต่งเติมโรงเรียนให้เป็นสถานที่ที่อบอุ่นเป็นกันเอง คอร์สหลักสูตรการเรียนไม่เพียงมุ่งเน้นเด็กในเรื่องการเรียน แต่เป็นคอร์สหลักสูตรที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวมของเด็กแต่ละคนในห้องเรียนแบบ Small Class เพียงแค่กลุ่มละ 5-8 คนเท่านั้น โกลเด้นเบรนภูมิใจที่ได้ใช้หลักสูตรคุณภาพนี้ในการพัฒนานักเรียน ให้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาแห่งการพัฒนาสมองที่ดีที่สุดในชีวิตไปด้วยกัน Golden brain in Golden Time

“ด้วยประสบการณ์การทำการเรียนการสอนมายาวนานกว่า 20 ปีหลักสูตรของโกลเด้นเบรน Abacus Mental Arithmetic Rapid Calculation ( A.M.A.R.C.) Teaching Method ได้ถูกสรรค์สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อช่วยให้นักเรียนอายุระหว่าง 4-9 ปี ได้พัฒนาไปตามวัยอย่างเหมาะสมและมีความรักในการเรียนรู้ตลอดคอร์สการเรียนการสอน โกลเด้นเบรนเริ่มต้นโปรแกรมด้วยพื้นฐานการใช้ลูกคิดใน Basic A Level 1 เราให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะพื้นฐานของนักเรียน ในขณะเดียวกันนักเรียนจะได้รับการพัฒนาทักษะแบบองค์รวม

จึงส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ มีจิตใจที่อยากรู้อยากเห็นและสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่นักเรียนก้าวหน้าไปตามหลักสูตรเราได้คอยสนับสนุนให้คำแนะนำตลอดการเรียนรู้ ดังนั้นเป้าหมายของโกลเด้นเบรนไม่ใช่การคิดเลขเร็วเท่านั้น แต่รวมถึงการฝึกฝนเพื่อพัฒนาขีดความสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและพร้อมในการเรียนรู้ทุกแขนงวิชา เพื่อการจดจำที่ดี มีสมาธิต่อการเรียน เข้าใจในเหตุผลและการตัดสินใจที่ดีกว่า”

สำหรับหลักสูตรซึ่งมี 6 ระดับ ประกอบด้วย 1.Basic A Level 1 เพิ่มและลดตัวเลขกับทักษะการใช้ลูกคิด ปูพื้นฐานทักษะแนวคิดการคิดเลขในใจ 2.Basic B Level 2 เพิ่มลดตัวเลขด้วยกับลูกคิดและการคิดเลขในใจ การสังเกต-ทักษะพื้นฐานต่อการ “จินตนาการ” ภาพลูกคิด การฝึกฝนการฟังและทำตามคำบอก

3.Elementary Level 3 ฝึกปฏิบัติเทคนิคการจินตนาการภาพลูกคิด ฝึกทักษะการคูณ การหาร โดยลูกคิด ฝึกการเพิ่มลดโดยการคิดเลขในใจ  4.Intermediate Level 4 เรียนรู้การคิดเลขในใจโดยการใช้ “การเคลื่อนไหวของปากกา” ฝึกทักษะการคูณ การหาร โดยลูกคิด ฝึกการเพิ่มลดโดยการคิดเลขในใจ 5.Higher Level 5 ฝึกปฏิบัติการคิดเลขในใจโดยใช้ปากกา ฝึกทักษะการคูณ การหาร โดยการคิดเลขในใจ และ 6. Advance Level 6 ทักษะพื้นฐานของการคำนวนด้วยจินตภาพที่แท้จริง ฝึกทักษะการคูณ การหาร โดยการคิดเลขในใจ

ในส่วนของการเรียนการสอนนั้น จะใช้เวลาเรียนสัปดาห์ละ 2 คาบ คาบละ 1 ชั่วโมง 30 นาที มีนักเรียนห้องเรียนละ 5-8 คน เรียนระดับละประมาณ 6 เดือน ใช้เวลาเรียนตลอดหลักสูตรประมาณ 3 ปี อัตราค่าเรียนเดือนแรก 2,700 บาท พร้อมเครื่องลูกคิดและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เดือนต่อไปเดือนละ 1,700 บาท

สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โรงเรียนเสริมทักษะ โกลเด้นเบรน จินตคณิต สาขาภูเก็ต ถ.เจ้าฟ้า อ.เมือง จ.ภูเก็ต โทร.098 028 3547 www.goldenbrainschool.com

“ภูเก็ต” กับความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย | ทันโลก กับ ที่นี่ Thai PBS

ครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนกับ 4 วัน ที่นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อติดตามโครางการต่างๆ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน การรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา หลังภูเก็ตถูกปักหมุดให้เป็นพื้นที่ฟื้นเศรษฐกิจของไทย จากการท่องเที่ยว แต่มิติการเมืองถูกมองว่าจะสามารถสร้างศรัทธาได้หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่

#ทันโลก #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

“ลากูน่า ภูเก็ต” เตรียมระเบิดศึกแห่งตำนาน “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ครั้งที่ 29” พฤศจิกายน 2566 นี้

“ลากูน่า ภูเก็ต” (Laguna Phuket) อาณาแห่งการพักผ่อนและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรบนเกาะภูเก็ต ผนึกกำลังองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เตรียมจัดงาน “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ครั้งที่ 29” (Laguna Phuket Triathlon 2023) นับถอยหลังสู่บทใหม่ของการจัดการแข่งขันไตรกีฬาระดับนานาชาติ ที่จะพลิกเกาะภูเก็ตสู่จุดหมายปลายทางการอีเวนต์สปอร์ตแบบเต็มฟอร์ม พร้อมต้อนรับทัพนักกีฬาสายอึดกว่า 1,200 จาก 30 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งหนุนท่องเที่ยวไฮซีซั่น 2023 แบบเต็มกำลัง 19 พฤศจิกายนนี้

นายพอล วิลสัน รองกรรมการผู้จัดการ ลากูน่าภูเก็ต ในฐานะผู้จัดงานเปิดเผยว่า ลากูน่า ภูเก็ต พร้อมแล้วที่จะระเบิดศึกแห่งตำนานอีกครั้ง! กับการแข่งขัน “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา” งานไตรกีฬาระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และจัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปีนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 29 ผ่านการร่วมมือครั้งสำคัญกับองค์กรชั้นนำระดับประเทศมากมาย อาทิ จังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การกีฬาแห่งประเทศไทย การกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

เพื่อผนึกกำลังในการผลักดันให้ “ภูเก็ต” กลายเป็นจุดหมายปลายทางการจัดการแข่งขันกีฬา หรือ Sport Event ระดับแนวหน้าของเอเชีย ที่ได้มาตรฐานสากล ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ทันสมัย รวมถึงทัศนียภาพอันงดงามที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้ามาในช่วงไฮซีซั่น 2566 นี้อย่างมาก โดยคาดว่า จะมีผู้แข่งขัน 1,2000 คน และผู้ติดตามมากกว่า 2,000 คน

“เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีอย่างยิ่งที่ “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา” กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ภายใต้การร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของทุกภาคส่วน ซึ่งในปีนี้การแข่งขันจะเข้มข้นและพิเศษมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่สนามการแข่งขันที่ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล เส้นทางพิชิตการแข่งขันที่สวยงามซึ่งไม่สามารถหาได้จากงานแข่งขันที่ไหน ๆ ทั้งทะเลอันดามัน ทะเลสาบ เส้นทางธรรมชาติทิวทัศน์ที่เขียวขจี ไปจนถึงที่พักที่สะดวกสบายภายในอาณาจักรรีสอร์ตครบวงจรอย่าง ลากูน่า ภูเก็ต เรารอคอยที่จะได้ต้อนรับนักไตรกีฬาทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นที่จะมาเข้าร่วมงานนี้ ซึ่งนับเป็นจุดหมายที่ดีสำหรับการเปิดช่วงไฮซีซันของภูเก็ตที่จะถึงนี้อีกด้วย” นายพอลกล่าว

การแข่งขัน “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ครั้งที่ 29” จะจัดขึ้น ณ ลากูน่าโกรฟ ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้คอนเซปต์ ‘คุณคือตำนาน’ ทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นผู้แข่งขันได้ทั้งมือโปรและมือสมัครเล่นครั้งแรก เพียงแค่มีความฝันที่จะสร้างตำนานของตนเอง สร้างคุณค่าด้วยความมีระเบียบวินัย ความอุตสาหะ และความมุ่งมั่น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่น่ายกย่องอย่างแท้จริง โดยการแข่งขันไตรกีฬา (Triathlon) สุดเข้มข้นครั้งนี้จะประกอบด้วย

การว่ายน้ำในทะเลอันดามันสีฟ้าครามและในทะเลสาบลากูน รวมระยะทาง 1.8 กม. การปั่นจักรยานบนเส้นทางขึ้นและลงเขา ชมวิวชนบทของภูเก็ตและหมู่บ้านท้องถิ่น โดยจุดไคลแม็กซ์อยู่บนเนินเขาในทอนอันงดงาม รวมระยะทาง 55 กม. และการวิ่งท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามบริเวณ ลากูน่า ภูเก็ต จะสิ้นสุดที่ ลากูน่าโกรฟ รวมระยะทาง 12 กม.

นอกจากนั้นยังมี สปรินต์ ไตรกีฬา (Sprint) ประกอบด้วยว่ายน้ำ 0.5 กม. ปั่นจักรยาน 20 กม. และวิ่ง 6 กม. รวมถึง ทวิกีฬา (Duathlon) ประกอบด้วย การวิ่ง 4 กม. ปั่นจักรยาน 5 กม. และวิ่ง 12 กม. ซึ่งเป็นการแข่งขันไตรกีฬาระยะพอเหมาะสำหรับนักแข่งกลุ่มครอบครัวและกลุ่มผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ ภายใต้การดูแลของทีมงานจัดการแข่งขันระดับมืออาชีพ และสร้างสีสันด้วยลีลาของนักบรรยายกีฬาชื่อดังอย่าง “Whit Raymond” (วิธ เรย์มอนด์)

ในปีนี้ ผู้เข่าร่วมการแข่งขันยังจะได้อุ่นเครื่องกับกิจกรรมใหม่พิเศษมากมายก่อนวันท้าประลอง ไปจนถึงการผ่อนคลายหลังการแข่งขัน เริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2566 กับ “คลินิกจักรยาน” เซสชั่นการซ้อมจักรยานอย่างเป็นทางการในระยะทาง 55 กม. โดย “ไซโคสปอร์ต” ผู้จัดงาน “ทัวร์ เดอ ภูเก็ต” รวมถึงการเตรียมพร้อมและการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2566 ฟิตกับกิจกรรม “Open Water Swim” ฝึกซ้อมการว่ายน้ำ โดย ไตรฮับ (TriHub) หนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขัน แล้วไปสนุกสนานยามเย็นกับ “Lifestyle Night Market” ชิมช้อปกับ 80 ร้านค้าที่ Canal Village หลังวันอันเหนื่อยล้าจากการแข่งขัน ในวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2566 สามารถผ่อนคลายกับโยคะและอาหารเช้าเฮลธ์ตี้แสนอร่อยที่ “Open Kitchen” และสนุกกับ “The Four-Man Muay Thai Championship” ในวันอังคารที่ 21 กันยายน 2566 ศึกชิงชัยสุดโหดของ 4 นักสู้ตัวท็อป

สำหรับ “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา” นับเป็นไตรกีฬาระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เคยมีนักไตรกีฬาฝีมือดีจากทั่วโลกร่วมชิงชัยในการแข่งขันในแต่ละปีอย่างคับคั่ง อาทิ ไมเคิล เรเลิร์ท จากเยอรมนี เจ้าของตำแหน่งแชมป์คนเหล็ก 4 สมัย มาสซิโม ซิกาน่า จากเวนิส อิตาลี นักไตรกีฬาระดับท็อป รูดี้ ไวลด์ จากสวิตเซอร์แลนด์ นักไตรกีฬาในการแข่งกีฬาโอลิมปิก 2012 และเอ็มม่า พาลันท์-บราวน์ จากอังกฤษ ผู้คว้าชัยในการแข่งขันไอรอน แมน 70.3 มากกว่า 20 ครั้ง อิงเก้ พราเซทโย จากอินโดนีเซีย เจ้าของเหรียญเงินในการแข่งกีฬาซีเกมส์ รวมถึงนักกีฬาไทยระดับท็อปอย่าง จเร เจียรนัย ดีกรีนักไตรกีฬาทีมชาติไทย และเซเลบริตี้มากมาย

นอกจากนั้น ยังเป็นการแข่งขันไตรกีฬาที่จัดขึ้นมายาวนานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 8 อันดับแรกของการแข่งขันไตรว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยนิตยสาร 220 Triathlon (สหราชอาณาจักร) ในปี 2563 นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับที่ 5 จาก 10 ให้เป็นไตรกีฬาที่ดีที่สุดในโลก โดย Let’s Do This (สหราชอาณาจักร) ในขณะที่ “ลากูน่า ภูเก็ต” ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีคุณูปการด้านกีฬาและการออกกำลังกาย โดยกรมพลศึกษา (DPE) กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาในปี 2562 ศึกแห่งตำนานอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะภูเก็ตนี้ ยังมีส่วนช่วยในการระดมทุนผ่านกองทุนเพื่อเด็ก Children First Fun (CFF) อีกด้วย

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันสามารถดื่มด่ำกับการพักผ่อน และสนุกกับการท้าชิงไตรกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ ณ ลากูน่า ภูเก็ต ที่จะให้การต้อนรับด้วยที่พักที่หรูหรา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย พร้อมการบริการอันอบอุ่น โดยที่พักตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสนามแข่งขัน มีบริการรถและเรือรับส่งฟรีภายในรีสอร์ตไปยังสนามแข่ง ลานกิจกรรมริมน้ำ ลากูน่าโกรฟ ด้วยห้องพักราคาพิเศษในโรงแรม อังสนา ลากูน่า ภูเก็ต, บันยันทรี ภูเก็ต, แคสเซีย ภูเก็ต, ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ทราย ลากูน่า ภูเก็ต และ บันยันทรี เวย่า ภูเก็ต โดยจองกับโค้ด LPT2023

ร่วมสร้างตำนานบทใหม่ด้วยกันกับศึก “ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ครั้งที่ 29” วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 นี้ เปิดลงทะเบียนแล้วตั้งแต่วันนี้ – 13 พฤศจิกายน 2566 ช่องทางออนไลน์ www.lagunaphukettri.com การแข่งขันประกอบด้วยไตรกีฬาประเภทบุคคลและทีม, ไตรกีฬาสปรินต์ และทวิกีฬาเต็มรูปแบบ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/LagunaPhuketTri หรือเว็บไซต์ www.lagunaphukettri.com

ชุมชนภูเก็ตพร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทุกชาติรู้จักกันดีอยู่แล้ว และมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกมาตรการส่งเสริม

#ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

สปาร์ตัน เรซ ไทยแลนด์ ประกาศความพร้อม ปั้นสนามแข่งขัน TRIFECTA Weekend สุดท้ายของโลกระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายนนี้

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บริเวณลานลม เซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต  นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน., Mr.Johan Wallen, ผู้จัดการทั่วไป บลูทรีภูเก็ต และนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน (Executive Director – Spartan Race Thailand & Vietnam) และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือ RUNRIO

ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดแข่งขันลิขสิทธิ์ระดับโลกศึกวิ่งฝ่าด่านวิบากชิงแชมป์เอเชียแปซิฟิค Phuket Spartan Trifecta and APAC Championship weekend 2023  ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายนนี้ พร้อมออกแบบสนามใหม่รับ TRIFECTA Weekend เพิ่มระยะ Beast 21 Km กับเส้นทางเทรลสุด Amazing เทียบเท่าสนามโลก เตรียมต้อนรับนักแข่งและผู้ติดตามเกือบหมื่นคน จาก 30 ประเทศทั่วโลก เพื่อยกระดับจังหวัดภูเก็ต สู่การเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness ของโลก ในพื้นที่ ต.ชิงทะเล อ.ถลาง  จ.ภูเก็ต

Mr.Johan Wallen, ผู้จัดการทั่วไป บลูทรีภูเก็ต  ในฐานะสปอนเซอร์หลักการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า บลูทรี ภูเก็ต มีความพร้อมเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการต้อนรับเหล่านักกีฬาและผู้ติดตามสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ทั้งนี้เหล่านักกีฬาจะได้รับความสนุกจากการแข่งขันกีฬาลิขสิทธิ์ระดับโลก Phuket Spartan Trifecta and APAC Championship weekend 2023 และผู้ติดตามจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการพักผ่อนและสนุกกับกิจกรรมต่างๆภายในบลูทรี

ซึ่งมีกิจกรรมและการให้บริการหลากหลาย อาทิ กิจกรรมทางน้ำในบริเวณบลูทรี ลากูน ซึ่งเป็นคริสตัลลากูนขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก, กิจกรรมการออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งและในร่ม หรือกิจกรรมผาดโผน เป็นต้น นอกจากนี้ภายในบลูทรีมีร้านอาหารหลากหลายประเภทเปิดให้บริการ ตลอดจนความบันเทิงต่างๆ เพื่อมอบความสุขและความสนุกให้กับทุกท่านที่เข้ามาในพื้นที่ บลูทรี ภูเก็ต ตามคอนเซปต์ Blue Tree Phuket Entertainment Hub, Thrill & Chill, Day & Night.

นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า เทศกาลวิ่งวิบากลิขสิทธิ์ระดับโลก  Phuket Spartan Trifecta and APAC Championship weekend 2023 กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของประเทศไทยในการขับเคลื่อนนโยบายการงาน  Mega Events  และ World Festival ผ่านการดึงงานลิขสิทธิ์ระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีฐานแฟนเบสจากทั่วโลก ซึ่งเป็นความต่อเนื่องจากความสำเร็จอย่างล้นหลาม จาก Pattaya Spartan TRIFECTA Weekend and Trail 2023 ที่ผ่านมา และในวันที่ 25-26 พฤศจิกายน นี้ ความยิ่งใหญ่ และความสำเร็จความสำเร็จบทใหม่บนพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ณ Blue Tree Phuket และพื้นที่ทางธรรมชาติ บริเวณรอบเขื่อนบางเหนียวดำ

ซึ่งนับเป็นหน้าที่หลักโดยตรงของทางสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ในการมีบทบาทและส่วนร่วมที่สำคัญในการดึงงานเทศกาลลิขสิทธิ์ระดับโลก โดยเฉพาะงานกีฬามวลชนเข้าสู่พื้นที่ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาด้านการวางแผนและการจัดงานให้กับเมืองเจ้าภาพเพื่อผลักดันให้งานเทศกาลกีฬาดังกล่าวสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่น 

เราเชื่อมั่นว่างานเทศกาลการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งโอกาสสำคัญที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตเกิดการยกระดับไปสู่เป้าหมายการเป็นเมืองแห่งกีฬาระดับโลก และเป็นเวทีที่แสดงถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความพร้อมที่จะเปิดประเทศเป็นเจ้าภาพในการจัดงานเทศกาลระดับนานาชาติ และระดับโลกทุกมิติ ทุกรูปแบบ ภายใต้นโยบาย Festival Economy เพื่อก่อให้เกิดมรดกทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนในฐานะเจ้าของพื้นที่ในการต้อนรับผู้ร่วมการแข่งขัน ผู้ติดตาม และทุกท่านเข้าร่วมงาน และร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทางหน่วยงานมีการความตื่นตัวและการเตรียมความพร้อมของพื้นที่เพื่อรองรับการแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองกีฬาที่สามารถรองรับมวลชนได้อย่างมีมาตรฐานระดับนานาชาติ ทั้งด้านความสะอาด ปลอดภัย สะดวกสบาย ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

และจะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างแน่นอน ภูเก็ตในฐานะเมืองเจ้าภาพพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว ที่จะรับรองและต้อนรับชาว Spartans จากทั่วทุกมุมโลก ผมขอใช้โอกาสนี้เป็นตัวแทนของพื้นที่จังหวัดภูเก็ตขอยืนยันความมั่นใจว่า พื้นที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมแล้วสำหรับการเป็นพื้นที่เจ้าบ้านที่มีศักยภาพในการต้อนรับนักกีฬา และผู้ติดตาม ที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านมั่นใจในศักยภาพของพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในการรองรับนักท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์ความประทับใจ จากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างแน่นอน

นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน (Executive Director – Spartan Race Thailand & Vietnam) และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือ RUNRIO กล่าวถึงศักยภาพเมืองเจ้าภาพ และสนามแข่งขันในประเทศไทยในทุกด้านทุกมิติที่มีความพร้อมในการสร้างแผนการตลาดรูปแบบ International Sport Tourism โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่มีพื้นที่จัดงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งทางธรรมชาติทะเล ภูเขา ป่า ถนน รวมถึงสนามกีฬา ยิม และพื้นที่จัดงานเทศกาลกีฬาในรูปแบบอื่นๆ Spartan Race Thailand และ RUNRIO ได้เล็งเห็นโอกาสที่จังหวัดภูเก็ตสร้างต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มจากกีฬามวลชนระดับนานาชาติและระดับโลก

หรือ Mass Participation World ที่นักกีฬาเชิงท่องเที่ยวมุ่งหา และค้นหางานเทศกาลการจัดการแข่งขันของ Societies ประเภทเดียวกันทั่วโลก อาทิ Spartan Race World Series ที่ถือเป็น World Trend และมีกลุ่มนักกีฬาที่ขื่นชอบการแข่งขัน แบบ World Series เป็นจำนวนมหาศาลกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งทั้งนี้เป็นนักกีฬาประเภท Amateur Athletes ที่เป็น High Spender กว่า 90% และ Spartan Race Thailand ที่จังหวัดภูเก็ตกำลังดำเนินการวางแผนเพื่อให้เป็นหนึ่งใน World Sports Destination เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในการสร้าง New Eco System ทางด้านกีฬาประเภทนี้ ที่มีผลกระทบต่อ

ทั้งนี้เทศกาลการแข่งขันวิ่งวิบากลิขสิทธิ์ระดับโลก Phuket Spartan Trifecta and APAC Championship weekend 2023” ในวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน 2566 ปีที่ 2 ถือเป็นการจัดงานในรูปแบบเทศกาลเต็มรูปแบบของ Spartan Race แบบ TRIFECTA ที่เพิ่มระยะทาง Beast 21 Km บนพื้นที่จัดงานของ Blue Tree Phuket ผนวกกับพื้นที่ทางธรรมชาติภูเขา ป่า และเขื่อนบางเหนียวดำที่เป็นเส้นทางการแข่งขันที่ยกระดับเทียบเท่าสนามแข่งขัน Spartan Race โลก

สำหรับ การแข่งขัน “Phuket Spartan Trifecta and APAC Championship weekend 2023” เป็นหนึ่งในรายการ Spartan Race World Series  ถือเป็นการแข่งขันที่หฤโหดและท้าทายนักวิ่งจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่ถูกจัดเตรียมไว้ตลอดเส้นทางการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การวิ่งบนเส้นทางวิบาก ลุยโคลน โหนเชือก ปีนตาข่าย ไต่กำแพง และอีกมากมาย โดยมีการชิงชัยทั้งสิ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 25 และ 26 พฤศจิกายน 2566 แบ่งเป็น 5 ประเภทการแข่งขัน ได้แก่ Beast ระยะทาง 21 Km (30 Obstacles), Super ระยะทาง 10 Km (25 obstacles), Sprint ระยะทาง 5 Km (20 obstacles), Spartan Kids ระยะทางสูงสุด 3.2 กม. และ Hurricane Heat แข่งขันแบบทีม

“บีดี ออโต้ สาขาภูเก็ต” เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า “BYD Seal” ซีดานรุ่นใหม่ล่าสุด

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่โชว์รูม บีดี ออโต้ สาขาภูเก็ต อาคารเมืองใหม่ ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต บีดี ออโต้ กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD จัดกิจกรรมเปิดตัว “BYD Seal” รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมประกาศราคาจำหน่ายพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ โดยมี น.ส.ธนกฤตา ชลนวันธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ กล่าวต้อนรับลูกค้าและแขกผู้มีเกียรติ โอกาสนี้ยังได้มีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น BYD Seal ให้กับลูกค้ารายแรกของรุ่น Premium  และรุ่น AWD Performance ของสาขาภูเก็ตด้วย

“BYD Seal  เป็นยานยนต์ที่มีนวัตกรรมล้ำที่สุดเท่าที่ BYD เคยมีมำ แรงกว่าที่เคยด้วยอัตราเร่ง 0 100 ม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ล้ำกว่าที่เคยสัมผัส ด้วยความปลอดภัยและเทคโนโลยีความบันเทิง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ภายในระดับไฮเอนด์ พร้อมพลังงานสะอาดของ Blade Battery แบตเตอรี่ความปลอดภัยสูงเอกลักษณ์เฉพาะ

BYD มีทั้งหมด 3 รุ่น  ได้แก่ Seal Dynamic RWD 61.4 kWh ระยะทางวิ่ง 510 กิโลเมตร (NEDC) 201 แรงม้า ราคา 1,325,000 บาท มี 2 สี ขาว / ดำ, Seal Premium RWD 82.5 kWh ระยะทางวิ่ง 650 กิโลเมตร (NEDC) 308 แรงม้า ราคา 1,449,000 บาท มี 3 สี ขาว / ดำ /เทา และ Seal Performance AWD 82.5 kWh ระยะทางวิ่ง 580 กิโลเมตร (NEDC) 523 แรงม้า ราคา 1,599,000 บาท มี 3 สี ขาว / ดำ /เทาฟ้า”

น.ส.ธนกฤตา ชลนวันธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีดี ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บีดี ออโต้ ภูเก็ต จำกัด เป็นหนึ่งในสาขาของ บีดี ออโต้กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD รายใหญ่ที่มียอดจำหน่ายและสาขาครอบคลุมมากที่สุดในภาคใต้ โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงได้เปิดโชว์รูมมาตรฐานนี้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อรองรับการให้บริการทางด้านศูนย์บริการ และอะไหล่ ให้กับครอบครัว BYD ในพื้นที่อีกด้วย

เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว BYD ATT03 เป็นรุ่นแรกและได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ตั้งแต่เริ่มจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน มียอดส่งมอบสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100 % และเมื่อกลางปีนี้ เราได้วางตลาด BYD Dolphin เข้ามาเสริมทัพอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ปัจจุบันมียอดจองแซงรุ่นพี่ ATT03 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการเปิดตัว BYD Seal ซึ่งเป็นรถซีดานไฟฟ้า ที่มีดีไซน์หรู คาดว่าจะได้รับการตอบรับไม่แพ้กัน น.ส.ธนกฤตา กล่าว

สำหรับ “บีดี ออโต้ กรุ๊ป” ปัจจุบัน มี 4 สาขา ได้แก่  บีดี ออโต้ สงขลา โชว์รูมตั้งอยู่บน ถ.เพชรเกษม ตรงกันข้ามกับห้างบิ๊กซี เอ็กตร้า หาดใหญ่, บีดี ออโต้ นครศรีธรรมราช โชว์รูมตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 403 ใกล้เซ็นทรัล นครศรีฯ, บีดี ออโต้ ภูเก็ต โชว์รูมตั้งอยู่บน ถ.เทพกษัตรี อาคารเมืองใหม่ ใกล้โรงพยาบาลมิชชั่น และบีดี ออโต้ ตรัง โชว์รูมตั้งอยู่บน ถ.บ้านควน นาบินหลา จากแยกบ้านควนไปแยกท่าปาบ

นอกจากนี้ยังเตรียมจะเปิดให้บริการอีก 3 สาขา ภายในปี 2566 ได้แก่ บีดี ออโต้ นครศรีธรรมราช สาขาทุ่งสง, บีดี ออโต้ ภูเก็ต สาขาบายพาส และบีดี ออโต้ นราธิวาส และมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมในพื้นที่อื่นๆ  อาทิ กระบี่ พังงา ปัตตานี และยะลา

สมาคมกัญชาภูเก็ต เตรียมจัด Phuket Cannabis Cup ครั้งที่ 2 โลกแห่งสุขภาพและกัญชาแบบองค์รวม

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 บริเวณชั้น 3 สวนน้ำบลูทรี ภูเก็ต นายปูรณ์วริทธิ์ หวังภัทราวานิช นายกสมาคมกัญชาภูเก็ต และคณะกรรมการฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน Phuket Cannabis Cup ครั้งที่ 2 รวบรวมโลกแห่งสุขภาพและกัญชาแบบองค์รวม ภายใต้หัวข้อ “Holistic Health, Holistic High”  

ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2566 นี้ ณ สวนน้ำบลูทรี ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อรับประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เฉลิมฉลองสุขภาพและวัฒนธรรมกัญชา ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างจิตใจ ร่างกาย จิตวิญญาณ และธรรมชาติ ตลอดจนเพื่อสำรวจแนวทางปฎิบัติเพื่อสุขภาพที่มีชีวิตชีวา  โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม

นายปูรณ์วริทธิ์ หวังภัทราวานิช นายกสมาคมกัญชาภูเก็ต กล่าวว่า สมาคมกัญชาภูเก็ตก่อตั้งขึ้น เมื่อเดือนมกราคม 2566 มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ เพื่อให้ความรู้ เชื่อมโยงธุรกิจ และให้การสนับสนุนธุรกิจและสังคม  นับเป็นสมาคมกัญชาเพื่อคนไทยอย่างแท้จริงแห่งแรกของประเทศไทย โดยสมาคมฯ กำหนดจะจัดงาน Phuket Cannabis Cup เป็นประจำทุกปี ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจากการจัดครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฎว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 80% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินับว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้

จากความสำเร็จดังกล่าวทางสมาคมฯ จึงได้กำหนดจัดงานครั้งที่ 2 ขึ้น โดยใช้ชื่องานว่า “Phuket Cannabis Cup” ครั้งที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “Holistic Health, Holistic High”  ระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2566 น. ณ สวนน้ำบลูทรี ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตของผู้ปลูก ให้ความรู้แก่ผู้บริโภค สร้างเครือข่ายทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ และแนะนำวัฒนธรรมใหม่ด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่มีกัญชาเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชามากขึ้น และสุขภาพองค์รวม

กิจกรรมภายในงานจะมีการออกบูทของผู้ประกอบการกัญชาที่จะนำกัญชามาจัดแสดง พบปะ และเปลี่ยนประสบการณ์กัน จำนวนประมาณ 40 บูท, นอกจากนี้ยังมีการเชิญผู้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่นมาร่วมประมาณ 30 บูท, การจัดแสดงศิลปะและนิทรรศการสุขภาพแบบองค์รวม, การนำเสนอผลิตภัณฑ์กัญชา เช่น เสื้อผ้าจากเส้นใยกัญชง แพทย์ทางเลือก นวดสปา ฝังเข็ม การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างมีสติ ดนตรีท้องถิ่น ดนตรี ดีเจ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

นายปูรณ์วริทธิ์ กล่าวต่อว่า ด้วยพื้นที่การจัดงานที่ใหญ่ขึ้น จึ่งตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวที่สนใจ เข้าร่วมงานทั้ง 2 วัน ไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 คน หรืออาจจะมากถึง 10,000 คน เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจเรื่องของกัญชามีค่อนข้ามาก จากการเก็บข้อมูลการจัดงานครั้งที่ผ่านมา พบว่า  เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสูงถึง 90% มีทั้งรัสเซีย ยุโรป และอเมริกา รวมทั้งกลุ่มเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น

ด้วยครั้งนี้จัดในช่วงของต้นฤดูกาลท่องเที่ยว จึงมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาร่วมงานจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา และเนื่องจากมีการเปิดจำหน่ายตั๋วในการเข้างาน หลังจากเราเปิดจำหน่ายไปแล้ว ปรากฎว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากเรื่องของการได้รับความรู้ที่ถูกต้องแล้วยังจะมีการกระจายรายได้ในพื้นที่ด้วย เพราะต่อคนจะมีการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาทต่อวัน

อบต.กมลา ขอความร่วมมือไม่ทิ้งขยะลงท่อระบายน้ำ แม่น้ำ และทะเล เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้สวยงามและคงอยู่ต่อไป


นายจุฑา ดุมลักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้กล่าวถึงการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ว่า เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตำบลกมลา เป็นเมืองท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวิสัยทัศน์และภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีเศษขยะพัดเข้ามายังชายหาดที่เป็นเขตรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลกมลาเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น หาดกมลา และหาดลายิ เป็นต้น

ส่งผลให้ปริมาณขยะที่องค์การบริหารส่วนตำบลกมลาต้องเข้าดูแลและจัดการมีจำนวนที่มากขึ้น พร้อมทั้งอาจส่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์ ทำให้ทะเลเสื่อมโทรม และเร่งให้สัตว์น้ำจำนวนมากต้องสูญพันธุ์หรือตกอยู่ในความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ รวมถึงขยะจำพวกพลาสติกจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์


นายจุฑา ดุมลักษณ์ นายกอบต.กมลา ยังกล่าวอีกว่า คณะผู้บริหารอบต.กมลาพร้อมด้วยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา จึงขอความร่วมมือประชาชนทั้งในพื้นที่ และมาท่องเที่ยว ช่วยกันดูแลความสะอาด โดยทิ้งขยะให้เป็นที่ รวมทั้งการทิ้งขยะให้เป็นเวลา เพื่อป้องกันขยะตกค้างในหมู่บ้าน โดยสามารถทิ้งขยะได้ตั้งแต่ เวลา 18.00 – 24.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 076-385-640 ต่อ 1 – 26

“ORN” ผนึก “APM” ลุยเดินสายโรดโชว์ในประเทศ เลือกปักหมุด ภูเก็ต 1 ใน 15 จังหวัดเป้าหมาย

วันนี้ (25 ก.ย.66 ) ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน, นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น) และนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN ร่วมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์ของบริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบ แนวสูง บนทำเลคุณภาพจังหวัดเชียงใหม่ แก่นักลงทุนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และใกล้เคียง  ก่อนเตรียมขายไอพีโอ 406.50 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET)

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN  เปิดเผยว่า บริษัทฯมีกำหนดเดินทางไปนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนหรือโรดโชว์ เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO  จำนวน 406.50 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 6 กันยายน – วันที่ 9 ตุลาคม 2566  โดยประเดิมที่จังหวัดระยอง ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม พิษณุโลก นครสวรรค์ เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร

นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัทฯมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก ORN มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากในอนาคต การเดินทางไป โรดโชว์ให้กับกองทุน นักลงทุนสถาบัน ห้องค้าบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยในประเทศ เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจถึงรายละเอียดในการดำเนินธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน และแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท สอดคล้องกับแผนการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO

ปัจจุบัน บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN  มีทุนจดทะเบียน 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทและมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 1,093.50 ล้านบาทโดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 406.50 ล้านหุ้น หรือ 27.10% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน)  หรือ ORN กล่าวว่า ปัจจุบัน ORN ประกอบธุรกิจการลงทุนถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) มีกลุ่มธุรกิจหลักคือ   

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ เป็นต้น และโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูง ได้แก่ คอนโดมิเนียมแนวราบ (Low rise) และคอนโดมิเนียมแนวสูง (High rise) บนทำเลคุณภาพจังหวัดเชียงใหม่  ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาแนวราบและแนวสูงภายใต้      แบรนด์สินค้า THE ESCAPE , HABITAT , BELIVE , ORNSIRIN , ORNSIRIN VILLE , URBAN MYX , BUSINESS CENTER , THE ASTRA , ARISE และ THE NEXT

“บริษัทมีความพร้อมอย่างยิ่งในการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะสามารถขยายธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง เสริมสร้างศักยภาพทางการเงิน เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่มีศักยภาพทั้ง 15 จังหวัด และสามารถนำพานักลงทุนพร้อมทั้งบริษัทเติบโตไปพร้อมกัน” นายปรีดีกร กล่าว

ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลังในปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 864.98 ล้านบาท 677.60 ล้านบาท และ 1,534.34 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 128.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75.25 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 280.92 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทมีรายได้เติบโตเป็นไปตามแผนการขยายโครงการของกลุ่มบริษัท สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้ 491.70 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 102.45 ล้านบาท