ผู้เขียน: phuketpost

เมื่อวันที่ 11  กันยายน 2566 ที่อาคารตะเภาใหญ่ สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เป็นประธานในการแถลงข่าว โครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานเทศบาลตำบลวิชิต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน และหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ตำบลวิชิต เข้าร่วม

ทั้งนี้ นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ได้กล่าวว่า ด้วยงานประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ของเทศบาลตำบลวิชิต โดยอาศัยการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนที่สามารถกระจายข้อมูลข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมทั้งในระดับชุมชนและระดับจังหวัดผ่านทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ได้รับความร่วมมือในการนำเสนอ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารของเทศบาลตำบลวิชิตด้วยดีและต่อเนื่องเสมอมา เทศบาลตำบลวิชิต

จึงได้จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารการสรุปผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 อีกทั้งเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างเทศบาลตำบลวิชิตกับพี่น้องสื่อมวลชน และเป็นการขอบคุณสื่อมวลชน รวมถึงภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น ที่ได้ให้ความร่วมมืออันดีและเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานของเทศบาลตำบลวิชิต ให้บรรลุตามเป้าประสงค์ ที่วางไว้

สำหรับการดำเนินงานของเทศบาลตำบลวิชิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่ได้ดำเนินภารกิจหน้าที่ในการดูแลประชาชน ให้มีสุข อยู่เสมอ ในทุกๆ ด้าน ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 56 ตารางกิโลเมตร ภายใต้การนำของนายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการและพนักงานเทศบาลตำบลวิชิต ทำงานเดินหน้าพัฒนาตำบลวิชิต มุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ และมุ่งหวังให้ตำบลวิชิตเป็นเมืองแห่งความสุข ในทุกช่วงวัย

ไม่ว่าจะเป็น เด็กและเยาวชน กับสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยเทศบาลตำบลวิชิต ได้ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลวิชิต ทั้ง 2 ศูนย์ฯ เน้นการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะในด้านต่างๆ ผ่านการเรียนภายในห้องเรียนและกิจกรรมที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ยังมีวัยแห่งการพัฒนา ซึ่งทางเทศบาลตำบลวิชิต ได้ให้ความสำคัญกับการดำรงชีวิต ของประชาชนในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยที่กำลังพัฒนาตนเอง พัฒนาครอบครัวให้สมบูรณ์ เพื่อจะได้พัฒนาสังคมให้น่าอยู่ต่อไป ซึ่งเทศบาลตำบลวิชิตได้จัดโครงการเพื่อส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจและสังคม

ปัจจุบันในพื้นที่ตำบลวิชิต มีจำนวนผู้สูงอายุมากเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดภูเก็ต โดยมีมากกว่า 4,000 คน โครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ผู้สูงอายุจึงได้เกิดขึ้น เพื่อเปิดพื้นที่กิจกรรมให้ผู้สูงอายุ ได้เข้ามาทำกิจกรรมที่เป็นโยชน์ พัฒนาศักยภาพของตนเอง โดยขณะนี้อาคารดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลวิชิตยังได้ได้ดำเนินภารกิจต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพ พร้อมทั้งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้สูงอายุในพื้นที่ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้ในการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการเป็นผู้สูงอายุ ร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักและสานสัมพันธ์ภายในครอบครัว

ในปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา เทศบาลตำบลวิชิตได้ให้ความสำคัญในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ที่ส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติ ประชาชนได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้  ดังนั้น การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในการรับมือกับปัญหาและลดความรุนแรงของภัยธรรมชาติต่างๆ เทศบาลตำบลวิชิต จึงได้จัดโครงการพลังใหม่ เข้าใจชีวิต เข้าใจธรรมชาติอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ด้วยความร่วมมือ ร่วมใจ ของเทศบาลตำบลวิชิต ทำให้เราได้รับรางวัลและเกียรติ ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนการทำงานและศักยภาพในการพัฒนาของเทศบาลตำบลวิชิตในหลายๆ ด้าน งานป้องกันฯ ทต.วิชิต คว้ารางวัลชมเชย (รองชนะเลิศอันดับที่ 3) โครงการประกวดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปี 2566 ประเภทเทศบาลตำบล ระดับประเทศ ณ บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส จำกัด จังหวัดระยอง

เทศบาลตำบลวิชิต เข้ารับประกาศนียบัตรรับการรับรองเป็นพื้นที่ผ่านเกณฑ์พื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ในระดับท้องถิ่น ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรคคนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระราชปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

ในส่วนของงบประมาณการรับ – การจ่ายเงิน ประจำปีงบประมาณ 2566 สรุป ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 เทศบาลตำบลวิชิตมี รายรับจริง 376,543,134.17 บาท โดยมียอดรายจ่ายจริง 244,088,940.07 บาท นอกจากนี้ได้มีการรับเงินอุดหนุน เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 6,414,999.67 และได้ใช้จ่ายไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ตลอด 1 ปี ที่เทศบาลตำบลวิชิต มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน มุ่งเน้นให้คนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมุ่งหวังให้ตำบลวิชิต เป็นเมืองแห่งความสุข…ทุกช่วงวัย

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 บริเวณชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ มูนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นายเล็ก ตันติพงศ์ไพศาล ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นางบุญวันดี วุ้นซิ่ว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ เวชวนิชสนอง รองนายก อบจ.ภูเก็ต พร้อมด้วยคณะกรรมการ ที่ปรึกษามูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความเป็นสิริมงคลของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม ภูเก็ต

พร้อมกันนี้ทางมูลนิธิได้ถวายหลอดไฟฟ้าให้กับเจ้าอาวาสวัดเขารังสามัคคีธรรม เพื่อนำไปติดตั้งในอาคารวชิระบรรพต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคคลที่จะต้องมานอนรอเพื่อรักษา หรือมารอเฝ้าผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รวมทั้งได้มอบข้าวสารอาหารแห้งเครื่องอุปโภคให้กับทางศาลเจ้าต่างๆ ในจังหวัดในช่วงประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2566 โดยมีคณะกรรมการสมาคมอ๊ามภูเก็ตมาร่วมรับมอบ

สำหรับมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ก่อตั้งครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ.2519 ได้ปฏิบัติภารกิจเรื่อยมาจนปัจจุบัน ดำเนินการกู้ชีพ กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหาย เก็บร่างผู้เสียชีวิตจากที่เกิดเหตุและศพไร้ญาติโดยมีสถานที่ฝังร่างเพื่อรอญาติมารอรับ รวมไปถึงจัดพิธีล้างป่าช้าตามวาระที่เหมาะสม ภายหลังมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้พัฒนาบุคลากรโดยจัดอบรมการช่วยชีวิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล มีการส่งพนักงานเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเข้ารับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องและบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย 

นอกจากนี้ ทางมูลนิธิยังได้มีกิจกรรมช่วยเหลือด้านสังคม มอบทุนการศึกษาแก่เด็กตามโรงเรียนต่างๆ ทุกปี มอบข้าวสาร อาหารแห้งและถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมสืบสานประเพณีถือศีลกินผัก มอบข้าวสาร เครื่องปรุงรส น้ำดื่ม ให้แก่ทุกศาลเจ้าและจัดพิธีเทกระจาดเป็นประจำ ปีละ 2 ครั้ง ทุกปี ซึ่งทั้งหมดมาจากเงินบริจาคของประชาชนทั้งสิ้น

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 66 ที่ ศปก.ตม.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับพ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานภาครับและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว จัดหางานจังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงกรณัมีสื่อต่างชาตินำเสนอข่าว ระบุว่า ชาวรัสเซียแห่ทำธุรกิจและยึดกิจการคนไทย มัการแย่งอาชีพคนไทย และปัญหาการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมาเฟียรัสเซียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

พันตำรวจเอกธเนศ สุขชัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึง 31 สิงหาคม 2566 พบว่ามีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เป็นจำนวนกว่า 2,469,052 คน โดยจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวน 487,504 คน (คิดเป็นร้อยละ 19.74)  ส่วนใหญ่จะเข้ามาท่องเที่ยว ระยะสั้นๆ และเดินทางกลับ ส่วนที่มีวีซ่าระยะยาวและพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมีจำนวน 9,275 คน (คิดเป็นร้อยละ 1.9)

โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ได้ปรากฏข่าวซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ตในสื่อออนไลน์ ว่า “สื่อนอกตีข่าว ชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” โดยเนื้อหาข่าวได้กล่าวถึงการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์, การประกอบธุรกิจท่องเที่ยวหรือการขับรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น, การทำงานที่ผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย, การแอบเข้ามากบดานของคนร้ายสัญชาติรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม พันตำรวจเอกธเนศ กล่าวด้วยว่า จากสถิติการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึง31 สิงหาคม 2566 พบว่า มีคนต่างด้าวกระทำความผิดจำนวน 635 ราย ในจำนวนนี้ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซียจำนวน 78 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.28) โดยมีฐานความผิดที่เกี่ยวกับการทำงาน จำนวน 6 ราย ซึ่งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการ “ที่พักสีขาวสำหรับชาวต่างชาติ (ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด) จังหวัดภูเก็ต” (Phuket Crime-Free)

โดยให้เจ้าของที่พักและประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมกันสอดส่อง ชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการกับชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์ไม่พึงประสงค์หรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกภาคส่วน จน ประสบผลสำเร็จ สามารถควบคุมและดำเนินการกับคนต่างด้าวที่กระทำความผิดอย่างเป็นรูปธรรม โดย ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้เป็นจังหวัดตัวอย่าง และให้จังหวัดอื่นๆ ดำเนินการตามโครงการนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ด้านนายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในประเด็นเกี่ยวกับการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยหลายปัจจัย โดยในส่วนของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวฯ มีหน้าที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาให้ได้มากที่สุด และเป็นนักท่องเทียวที่มีคุณภาพมากที่สุด ปัจจุบันรัสเซียเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่เข้ามาภูเก็ต แต่จะเห็นว่านักท่องเที่ยวรัสเซียที่อยู่ในระยะยาวมีจำนวนน้อยมาก

ฉะนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย แต่น่าจะเกิดจากปัจจัยการเปิดประเทศและสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตทำให้นักลงทุนนอกพื้นที่ที่มาลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้ โดยการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของคนต่างด้าว แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิซื้อที่ดินจึงไม่เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทึ่ดินเพิ่มสูงขึ้น กับสิทธิ์ของต่างชาติที่สามารถซื้อได้ คือ ประเภทคอนโดมีเนียมในอัตรา 49 ต่อ 51 จากการสอบถามสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตได้รับคำตอบว่ามีการครอบครองในอัตราปกติ แต่อาจมีที่คนต่างด้าวใช้ช่องทางอื่นในการเช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ระยะยาว

ทางด้าน ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวชาวรัสเซียเข้ามาประกอบอาชีพขับรถรับจ้างโดยให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น จากการตรวจสอบจากช่องทางต่างๆ ยังไม่พบข้อมูลการประกอบอาชีพขับรถรับจ้างแต่จะมีต่างชาติสัญชาติเมียนมาที่ขับรถรับจ้าง ทางขนส่งฯ ได้แจ้งไปยังจัดหางานจังหวัดเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยว ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การทำธุรกิจการท่องเที่ยวในปัจจุบันมีสถิติที่ยังน้อยกว่าก่อนช่วงโควิด ซึ่งข้อมูลที่ว่านักท่องเที่ยวรัสเซียทะลักเข้ามาแล้วทำเอฟเฟค คิดว่าไม่มี และบริษัทนำเที่ยวที่สนามบินจะมีการแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวให้ตำรวจท่องเที่ยวทราบอยู่แล้วซึ่งมีประมาณ 15 บริษัท มีคนรัสเซียทำงานในบริษัทดังกล่าวและมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สำหรับพวกที่เป็นประเด็นตามข่าว น่าจะไม่ได้เป็นบริษัททัวร์ อาจจะเห็นช่องทางจึงมีการลักลอบทำผิดกฎหมาย ขอฝากความร่วมมือของประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส

ส่วนประเด็นชาวรัสเซียเข้ามาแย่งงานคนไทยในภูเก็ต เช่น ร้านตัดผม เป็นต้น ทางจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงว่า ข้อมูลล่าสุดมีรัสเซียเข้ามาขอใบอนุญาตทำงาน 2,619 คน ซึ่งสำนักงานจัดหางานได้มีนโยบายหลักที่เป็นมาตรการควบคุมและกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ จะไม่ออกใบอนุญาตทำงานโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการจับกุมในปี 2566 มีการจับกุมเกี่ยวกับการทำงานของคนต่างด้าวประมาณ 20 คดี มีคนสัญชาติรัสเซียเพียง 3 ราย

ด้านพลตำรวจตรี เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวกับสัญชาติรัสเซียประมาณ 3 คดี ซึ่งทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา และออกหมายจับในส่วนที่หลบหนีได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาจะรู้จักกันมาก่อน และมีการประกอบธุรกิจร่วมกัน ซึ่งยืนยันว่าในส่วนที่เป็นมาเฟียไม่มีอย่างแน่นอน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ที่เวทีกลางสวนศรีภูวนาถ ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “เด็กชวนเล่า คนเฒ่าชวนเดิน @ วิชิต” โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้สูงวัย และน้องๆ นักเรีย นักศีกษาในพื้นที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายธนวัฒน์ เทวเดช ปลัดเทศบาลตำบลวิชิต ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมเด็กชวนเล่า คนเฒ่าชวนเดิน @ วิชิต เป็นการจัดงานที่ได้บูรณาการในหลากหลายโครงการ ดังนี้ โครงการถนนเด็กเดิน, โครงการ ลานวัฒนธรรม ลานดนตรี, โครงการรักษ์ความเป็นไทย, โครงการจินตนาการแห่งสีสัน จากกองการศึกษา, โครงการลานสร้างสรรค์สูงวัยสร้างสุข จากกองสวัสดิการสังคม, และนิทรรศการภาพถ่าย จากสำนักปลัด

โดยการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมบูรณาการ ซึ่งได้เล็งเห็นว่า เด็ก เยาวชนและผู้สูงอายุในปัจจุบันมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถต่อการพัฒนาประเทศ โดยปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงหลากหลายที่ทำให้กลุ่มเหล่านี้ต้องปรับสภาพให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและสังคม

การจัดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับกลุ่มเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่เสมือนเป็นเวทีสำหรับเด็ก เยาวชนและผู้สูงอายุ ได้มีโอกาสรวมตัวกันแสดงความสามารถอย่างหลากหลายที่จะตอบสนองความต้องการของเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ทั้งในพื้นที่ตำบลวิชิต และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแท้จริง

โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคจากสถานศึกษาในเขตตำบลวิชิต และประชาชนทั่วไป กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ อย่างหลากหลาย การแข่งขัน วิชิตก๊อตทาเลนต์ กิจกรรมการประกวดหนูน้อยวัฒนธรรม กิจกรรมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง กิจกรรมมีดีมาโชว์ กิจกรรมรำวงเวียนครก กิจกรรมนิทรรศการภาพถ่าย

โดยกิจกรรมทั้งหมดได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาในจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ ชมรมผู้ทรงคุณค่าทางภูมิปัญญาเทศบาลตำบลวิชิต มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โรงเรียนวัดเทพนิมิตร โรงเรียนดาราสมุทร โรงเรียนอิสลามพัฒนา โรงเรียนแหลมพันวา โรงเรียนวิชิตสงคราม โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน

นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลวิชิต ยังได้เปิดนิทรรศการภาพถ่าย ซึ่งทางเทศบาลตำบลวิชิต ได้จัดการประกวดภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวของเทศบาลตำบลวิชิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ร่วมส่งภาพถ่ายเข้าประกวด โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทแหล่งท่องเที่ยว/วิถีชีวิต ภายใต้หัวข้อ “รักษ์สีเขียว เที่ยววิชิต” และประเภทพิเศษวิชิตติดดาว ภายใต้หัวข้อ “เส้นทางสีขาว”

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุมระเงง ชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมือง ภูเก็ต นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดทำแผนกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลตำบลวิชิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งจัดโดยกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลตำบลวิชิต โดยมีฝ่ายบริหาร คณะกรรมการสปสช.ทต.วิชิต หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่ายเข้าร่วม

นายธนวัฒน์ เทวเดช ปลัดเทศบาลตำบลวิชิต กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพในชุมชน/หมู่บ้าน ภาคีเครือข่ายในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รวมไปถึงบุคลากรในชุมชน อีกทั้งเพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการด้านสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้เกิดแผนยุทธศาสตร์และโครงการส่งเสริม ป้องกันสุขภาพประชาชนในชุมชนต่อไป